Bluetooth Speaker.

REVIEW

              การออกแบบผลิตภัณฑ์ของ MIFA นั้นเข้มงวดมากๆกับกาทดสอบ ซ้ำแล้ว ซ้ำอีก ในห้อง Lab ทดลองเสียงมาตรฐาน เพื่อแก้ไขจุดต่างๆก่อนทำ Product ออกมาจำหน่าย และยังมีระบบ PureSoundTM จำลองการได้ยินของมนุษย์ เพื่อให้ได้เสียงที่ออกมาดีที่สุดครับ
                ลำโพงไหมฟ้า MIFA F7 นั้นเป็นลำโพงรุ่นพี่ ตัวล่าสุดของค่าย ต่อจากตัว F6 ที่เน้นวัสดุการประกอบระดับ Premium แบบหาไม่ได้จากลำโพงทั่วๆไปในท้องตลาด และความทนทานที่สูงขึ้นไปอีก อีกทั้งยังได้มีการดีไซน์ดิกลำโพงแบบใหม่ล่าสุด ซึ่งช่วยให้เสียงดีขึ้น และมีความทนทานมากกว่าเดิมหลายเท่า แถมปรับปรุงการใช้งานในลักษณะต่างๆ ให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ในปัจจุบันมากยิ่งขึ้นไปอีกคร้าบบบ

มาเริ่มแกะกล่องกันเลยครับ ลำโพงไหมฟ้า MIFA F7 นั้นทำ Package เป็นแบบกล่องพลาสติกใส โชว์ตัวสินค้าด้านในแบบชัดเจนครับ ด้านในมีเขี้ยวพลาสติกสีเหลืองล็อคตัวลำโพงไว้อย่างดี ซึ่งแค่เฉพาะงานกล่อง ก็เหนือชั้นกว่าลำโพงในระดับเดียวกันพอสมควร เอาเป็นว่าไม่อย่างเชื่อว่าราคาแค่นี้ Package จะออกแบบมาได้อย่างสวยงามแบบนี้ครับ

เมื่อเปิดกล่องเอาชั้นที่ยึดลำโพงออกแล้ว ก็จะมีสายสัญญาณแบบ 3.5mm ทั้งสองด้านความยาว 1 เมตร จำนวน 1 เส้น แล้วก็สาย USB ความยาว 1 เมตร อีกหนึ่งเส้นครับ คุณภาพสายระดับใช้งานได้ดี และสายทั้งสองเส้นที่แถมมาให้เป็นสายสีเหลือง เพื่อให้เข้ากับสีของแบรนด์ MIFA ด้วยจ้าา

เริ่มแรกที่ได้จับ MIFA F7 ก็รู้ได้เลยว่าตัวนี้เอาจริงเอาจังมากครับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องน้ำหนักตัว ขนาดของลำโพง และวัสดุที่ใช้ในการประกอบ ทุกอย่างออกแบบมาอย่างสวยงาม และลงตัวมากๆครับ เทียบขนาดของตัวลำโพงกับอุ้งมือหมีอย่างผมก็อยู่ในระดับจับได้กระชับมือดี และหากมีเรื่องต้องป้องกันตัว ผมว่าเอาไปใช้ป้องกันตัวได้เลยล่ะ เพราะว่าวัสดุมันแข็งแรงมากๆ เอาไปตีหัวใครรับรองแอนตาซิลเตรียมจ่ายแน่นอน 555

มาดูกันต่อที่ตะแกรงด้านหน้าครับ ตรงกลางนั้นจะมีเพลทโลโก้ MIFA อยู่บนรูตะแกรง ซึ่งเห็นเป็นรูๆแบบนี้ ไม่ได้เจาะกันมั่วๆ หรือทำยังไงก็ได้นะครับ เพราะรูบนตะแกรงหน้านั้นยังต้องทำหน้าที่จูนเสียงให้ความถี่ต่างๆออกมาอย่างสมดุลย์กันตั้งแต่เสียงต่ำ-แหลม ต้องมีการออกแบบ และคำนวณมาอย่างดี และด้านในยังมีแผ่นใยสีดำบางๆอยู่ด้านใน ที่ทำหน้าที่ป้องกันเศษดิน และน้ำ เข้าไปสู่ตัวลำโพงอีกชั้นครับผม

ตัวถังชิ้นหน้า-หลังของลำโพง MIFA F7 นั้นทำจาก Aluminium เกรดสูง เกรดเดียวกับของที่ใช้ในวัสดุการบินเลยทีเดียวครับ แล้วก็ไปทำสีด้วยกระบวนการ Anodizing Process หรือการทำสีด้วยระบบไฟฟ้า โดยการจ่ายไฟให้กับชิ้นอลูมิเนียม และลงไปชุบในบ่อสี ทำให้สีนั้นเข้ามาเกาะตัวกับเนื้ออลูมิเนียมได้อย่างเหนียวแน่น สนิทและเรียบสุด แถมยังได้เรื่องความทนทานมากกว่ากว่าพ่นสีทั่วไปหลายเท่าครับ แต่ถ้ายังไม่พอ ทาง MIFA เค้าได้ทำการเคลือบสาร แบบ Nano Tech เข้าไปอีกที เพื่อป้องกันรอยชีดข่วนได้อย่างดีอีกด้วยล่ะ รับรงว่าทนทานและถึกสุดๆ

ที่ด้านหน้ายังมีตัวหนังสือปั้มลง Aluminium เป็นคำว่า Traveler ไว้ด้วย ซึ่งน่าจะต้องการบอกให้ทราบว่า ลำโพงตัวนี้ออกแบบมาให้ใช้งานได้อย่างสมบุกสมบัน พร้อมจะไปได้ทุกที่ เหมาะกับทุกสภาพการใช้งาน และใช้งานได้ในทุกสถานะการครับผม

ตัวเคสชิ้นกลางนั้นเป็นยางวัสดุ TPU (thermoplastic elastomer material) ที่เด่นเรื่องความทนทาน แข็งแรงต่อทุกสภาพอากาศ และยังสามารถซับแรงกระแทกได้อย่างดีเยี่ยมครับ ซึ่งหากมีการตกกระแทกโดนชิ้นแกนรอบตัวนี้ รับรองว่าไม่มีการเสียหายเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ถ้าหากใครต้องการใช้ลำโพงแบบยาวๆ ซื้อตัวเดียวใช้ได้นานๆ รับรองว่า F7 ตอบโจทย์ได้แน่ๆครับ

ปุ่มด้านบนนั้นออกแบบมาให้ใช้งานง่ายๆ คือมีปุ่มกลางที่เป็นตัว M ทำหน้าที่หลายอย่าง เช่นการเปิด-ปิด การกดเพื่อเข้าโหมด Bluetooth การกดเพื่อสั่งหยุดเล่นเพลงชั่วคราว และยังใช้กดรับสายได้ด้วย และปุ่มข้างๆเป็น - และ + ที่ใช้ในการเพิ่ม-ลดเสียงครับผม ตัวปุ่มนั้นเป็นวัสดุยางอย่างดี และกดได้ง่ายไม่นิ่ม และแข็งจนเกินไปครับ

ทางด้านข้างนั้นก็จะมีชิ้นยางปิดช่อง USB และช่อง Input แบบ 3.5mm อยู่ครับ ซึ่งเปิดออกมาก็จะเจอกัยช่อง Micro USB สำหรับเสียบชาร์จ โดยสามารถใช้ Adaptor ชาร์ตมือถือแบบ 5V ทั่วๆไปชาร์จได้เลย แล้วก็ช่องเสียง Aux In แบบ 3.5mm เอาไว้ต่อเครื่องเล่นอื่นๆ ที่ไม่มีภาคส่ง Bluetooth ครับผม

ส่วนอีกด้านหนึ่งจะเป็น หูคล้องและ Clip สำหรับเกี่ยวกระเป๋า หูกางเกง หรือแขวนในที่ต่างๆที่ต้องการได้หมดครับ ซึ่งหูคล้องจะเป็นสีเดียวกับตัวลำโพงด้วย และจากที่ลองใช้งานเจ้า Clip ตัวนี้ ถือว่าอยู่ในระดับทนทานดี ยังไม่เจอปัญหาเรื่องฝืดหรือสปริงอ่อนเหมือนกับลำโพงทั่วๆไปครับ

มาถึงด้านหลังของเจ้าไหมฟ้าครับ เป็นช่องลำโพงที่เจาะไว้สำหรับการปล่อยให้เสียงต่ำๆ ออกมา ผ่าน Diver แบบ Passive Radiator ขนาด 2" ซึ่งทางไหมฟ้าเรียกว่า Super Bass Technology ที่ให้เสียงต่ำหนักแน่นสุดๆ และรูด้านหลังนี้ยัง คำนวณขนาดมาอย่างดีเป็นขนาด 0.8mm จำนวน 252 รู ซึ่งเจาะและทำทั้งชิ้นด้วยเครื่อง 8 CNC steps ซึ่งจะช่วยให้ได้ตำแหน่งรูตามที่ต้องการ และเสียงที่ออกมาดีตามสเปค และยังป้องกันน้ำ และเศษดินเข้าได้หมือนกับด้านหน้าด้วยคร้าบบบ

และที่ด้านหลังนั้นยังมียางรองจำนวน 4 ชิ้น ซึ่งทำหน้าที่ยึดเกาะกับโต๊ะได้อย่างเหนียวแน่นหนึบสุด และสามารถวางหงายฟังบนโต๊ะได้ ซึ่งเท่าที่ทดสอบฟังดู เปิดเพลงฟังไป ลำโพงก็ไม่ดิ้นครับ อยู่กับที่นิ่งๆ แถมได้เรื่องเสียงกลาง และเสียงร้องที่สดใสดีอีกด้วยจ้าา

ลำโพง MIFA F7 นั้นสามารถกันเศษดิน เศษหินได้ในระดับ IPX5 ครับ ซึ่งไม่ใช่แค่เศษดินขนาดใหญ่ แต่ยังรวมถึงเศษเม็ดทรายอีกด้วย เพราะด้านในของตะแกรงหน้า มัแผ่นใยสีดำบางๆ ป้องกับเศษดินเข้าไปอีกชั้นครับ เอาไปลุยที่ไหนไม่ต้องกลัวเสียหาย แต่อย่าถึงกับฝังดินกลบเลยนะครับ กลัวน้องไหมฟ้า F7 จะหายใจไม่ออก ขาดใจไปเสียก่อน 555

และยังสามารถกันน้ำได้ถึงระดับ IPX6 ครับ ป้องกันน้ำสาดโดน ป้องกันฝน และน้ำกระเด็นใส่ได้ทั้งหมด แต่ไม่ถึงกับจุ่มน้ำนะครับ อันนั้นสำลักน้ำแน่ๆๆ แต่เท่าที่ผมลองเอาไปเล่นใกล้ๆน้ำตกมา มีน้ำไหลผ่านโดนบ้าง กระเด็นใส่บ้าง เจ้า MIFA F7 ก็ยังใช้งานได้ดีครับ ลองเปิดดูด้านในก็ไม่มีน้ำเข้าไปแม้แต่น้อย ซึ่งเค้าออกแบบมาได้แจ่มจริงๆครับ ถึงจะมีน้ำเข้าไปบ้างตัวดอกลำโพงรุ่นใหม่นี้ ก็กันน้ำอยู่ดี ใช้งานได้ทนทาน นานหายห่วงเลยจ้าาา

มาถึงช่วงซนครับ ลองแกะดูไส้ในของ MIFA F7 ดูกันเลยดีกว่า อยากรู้นักตัวเล็กๆแค่นี้ใส่ทีเด็ดอะไรไว้บ้างน้อออ เริ่มจากการแกฝาหลังออกมาครับ เราจะเห็นตัวดอก Bass แบบ Passive Radiator ที่อยู่ด้านหลัง และรูปกรวยพลาสติกทั้งสองอันนั้น จะทำหน้าที่ดันไดร์เวอร์ด้านหน้าให้แน่นหนายิ่งขึ้นด้วยครับ

ส่วนรูปนี้เป็นวงจรด้านในทั้งหมดครับ ที่เห็นเป็นสีดำๆสองลูกคือดอกลำโพง 2 ตัว ด้านบนเป็นวงจรควบคุม และภาคขยายเสียง ส่วนด้านล่างเป็นแบตเตอรี่ขนาด 1,500mAH ครับ การจัดวางวงจรต่างๆด้านในนั้นทำอย่างเป็นระเบียบ เรียบร้อย ทุกอย่างถูกจัดวางอย่างดีลงตัวมากๆๆครับ

ที่วงจรด้านบนนั้นจะเป็นวงจรควบคุมเสียง และปุ่ม Micro switch อย่างดี ที่ใช้ในการกดสั่งงานตัวลำโพง ตัว Switch ติดตั้งอยู่บนบอร์ด PCB แบบ Plate True Hole หรือปริ้นที่ออกแบบให้ทะลุถึงกันทั้งสองฝั่ง เพื่อประหยัดพื้นที่ในตัวลำโพงครับ

ส่วนด้านนี้ที่เป็นแผ่น PCB สีน้ำเงินบางๆ นั้นเป็นภาครับ Bluetooth เวอร์ชั่น 4.0 พร้อม DSP Stereo Sound Process ครับ ซึ่งจะทำให้เสียงที่ส่งผ่าน Bluetooth ไปยังลำโพง MIFA นั้นได้รายละเอียดครบถ้วน และ DSP ยังช่วยปรับเสียงให้มีมิติ และเวทีเสียงที่กว้างขึ้นด้วย ทำให้เสียงของ MIFA F7 ไม่อมอยู่ที่ตัว แต่แผ่ออกไปเป็นวงกว้างครับผมม

มาถึงภาคขยายของ MIFA F7 กันครับ เป็น Chip ขยายเสียงระบบ Class-G NCN digital AMP ซึ่งเป็นการผสมผสานข้อดี ของแอมป์แบบ Class A และ Class AB ไว้ด้วยกัน คือเมื่อเปิดเสียงเบาๆ ภาคแอมป์จะทำงานในโหมดของ Class A ที่ให้ความเพี๊ยนต่ำ แต่เมื่อเราเร่งเสียงให้ดังขึ้น ต้องการพลังเสียงเยอะ วงจรแอมป์จะทำการตัดเข้าสู่โหมด Class AB ทันที ซึ่งจะทำให้ได้พลังเสียงที่มากขึ้น สามารถเปิดเสียงได้ดังตามที่เราต้องการจ้าาา

ดูใกล้ๆที่ท้ายลำโพงนั้นระบุไว้ว่าเป็นลำโพง 4ohm รองรับกำลังขับตามสเปคที่ 3 วัตต์ครับ ซึ่งเป็นไดร์เวอร์รุ่นใหม่ของทาง MIFA โดยเอามาใช้กับรุ่น F7 เป็นครั้งแรกครับผม

หน้าตาชัดๆของดอกลำโพง MIFA F7 เป็นดอกลำโพงขนาด 1.5" ที่ดีไซน์มาใหม่หมดจดครับ สามารถกันน้ำได้ดีกว่าเดิมด้วยวัสดุใหม่ โดยใช้ส่วนผสมของ aluminum และระบบการยึดขอบ Surround ใหม่ที่ทนทานยิ่งขึ้น แถมยังได้เรื่องเสียงกลาง-แหลมที่ชัดเจน โปร่งสะอาดขึ้นอีกด้วยล่ะ นับว่าเป็นการออกแบบลำโพงที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ MIFA จริงๆครับ

มาถึงการทดสอบเสียงกันเลยดีกว่าจ้าา การใช้งานเจ้า MIFA F7 นั้น ไม่มีอะไรยากเลยครับ เพียงแค่เปิดลำโพง กดปุ่ม M ค้างไว้ จนไฟ LED สีฟ้า มันกระพริบถี่ๆ จากนั้นเราก็เปิดมือถือของเรา ทำการค้นหาลำโพง ซึ่งมันจะขึ้นลำโพง Mifa_F7 มาให้เราเลือก เราก็เชื่อมต่อลำโพงได้เลยครับ เมื่อเชื่อมต่อได้แล้ว ที่ลำโพงก็จะมีเสียงบอกว่าเชื่อมต่อสำเร็จ จากนั้นเราก็ไปเปิดเพลงฟังให้สบายใจเฉิบได้เลยครับ

จากการทดสอบลองฟังเพลงโดยการเล่นจากมือถือนั้น ให้เสียงที่น่าฟังกว่าที่คิดไว้เยอะครับ เพราะตัวไหมฟ้า F7 นั้น ให้รายละเอียดเสียงกลางแหลมชัดเจน แม้จะเปิดเสียงเบาๆก็ตาม ผมลองทดสอบด้วยเพลง Jazz ที่เน้นเรื่องเสียงเครื่องเป่า เจ้า F7 ก็ไม่ทำให้ผิดหวังครับ เสียง Trumpet นั้นหลุดออกจากลำโพง มีวงกว้างดีทีเดียว แถมความลื่นไหลของการขึ้นลงของเสียงนั้น ก็สามารถทำได้ดีอีกด้วย 

ผมเลยลองเปลี่ยนเป็นเพลงแนว Dance และ Rock มีจังหวะเบสแน่นๆ มันส์ๆหน่อย ก็ยังสามารถตอบสอนงได้ดีเกินคาดครับ เบสนั้นเป็นเม็ดสวย มีพลัง กระชับดีทีเดียว แถมเปิดดังหน่อย เสียงก็ยังไม่มีอาการเพี๊ยนหรือแตกพร่าเหมือนลำโพงตัวอื่นๆ ใช้ฟังได้มันส์ดีเลยล่ะ ยิ่งเพลงลูกทุ่งนั้นไม่ต้องสืบเลยครับ มันอย่าบอกใคร ฟังแล้วอยากจะเคาะขวดตามเลยทีเดียว 555

และที่สำคัญเจ้าตัว MIFA F7 นั้นสามารถแยกรายละเอียดได้ดี จนสามารถแยกออกได้เลยว่าเครื่องเล่นเพลงนั้นมีผลต่อเสียงด้วยครับ เพราะผมลองเปลี่ยน Source จากมือถือ มาเป็น Astell&Kern 240SS เครื่องเล่นเพลงตัว Hi-end สุดๆหลักแสน โดยการเชื่อมต่อ Bluetooth ไปเข้าเจ้า MIFA F7 เสียงที่ได้นั้นก็ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดๆครับ นั่นก็แสดงว่าคุณภาพของภาครับ Bluetooth ภาคแอมป์ และดอกลำโพงของ F7 ออกแบบมาได้อย่างดี จึงสามารถแสดงความเปลี่ยนแปลงจากเครื่องเล่นเพลงที่ต่างกันได้ ยิ่งถ้าเพลงไหนบันทึกมาดีๆ ยิ่งทำให้เสียงของมันดีขึ้นไปอีกครับ 

อย่างผมลองฟัง Dire Straits เพลง Why Worry เสียงกีต้าร์นั้นลึกมี Harmonic บาดใจ ฟังเพลินสุดๆครับ และกับเพลงทั่วๆไป หรือการฟังเพลงจาก Youtube ก็สามารถ ปล่อยเสียงออกมาได้อย่างดี ซึ่งคุณภาพเสียงที่ออกมาขึ้นอยู่กับเพลงที่เราเปิดด้วย และที่ลองใช้การเชื่อมต่อ Bluetooth มา ไม่รู้สึกว่าเสียงด้อยกว่าต่อสายครับ เป็นลำโพงที่ออกแบบมาให้ใช้งานผ่าน Bluetooth ได้อย่างสะดวก และเสียงดีอย่างไม่น่าเชื่อจริงๆ

หลังจากที่ผมได้สัมผัสและทดสอบ ลำโพงพกพา MIFA F7 ตัวนี้ เป็นเวลาหลายวัน ผมต้องขอบอกว่าประทับใจกับเสียง และวัสดุต่างๆที่ใช้ออกแบบลำโพงตัวนี้มากๆครับ ไม่ว่าจะเป็นทั้งตัวถัง Aluminium, ยาง TPU รอบตัว , เรื่องความทนทาน การออกแบบให้กันน้ำ กันเศษดินเศษทราย, ไดร์เวอร์ลำโพงที่ให้เสียงได้ชัดเจน ซึ่งโดยปกติแล้วลำโพงในระดับนี้ ไม่สามารถให้เสียง และวัสดุได้อย่าง F7 แน่นอน ถ้าหากท่านกำลังมองหาลำโพงพกพา ที่ให้รายละเอียดเสียงได้ดี เสียงต่ำหนักแน่น แบตใช้ได้นาน ทนทานต่อการใช้งานในทุกสภาวะ พร้อมจะนำเสียงเพลงดีๆ ไปกับคุณได้ทุกที รับรองว่า MIFA F7 กับราคา 1,990 บาท ไม่ทำให้ผิดหวังอย่างแน่นอนครับ